ผู้ก่อการดี
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

ผู้ก่อการดี

เราสีแดง, นักรบไซต์เบอร์, พวกเราชาวสีแดง, ความจริงวันนี้, เผด็จการซ่อนรูป, ต้านเผด็จการ, เผด็จการ, รวมพลคนเสื้อแดง, เสื้อแดง, สีแดง, สนามหลวง, นัดชุมนุม, ชุมนุม, รักชาติ, ผู้ก่อการดี
 
บ้านLatest imagesค้นหาสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 ฟังจากปากจตุพร พรหมพันธ์ ยุคแห่งการปิดหูปิดตาประชาชน

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
sezzion
จอมพล
จอมพล
sezzion


Posts : 306
Reputation : 2
Join date : 14/05/2009

ฟังจากปากจตุพร พรหมพันธ์ ยุคแห่งการปิดหูปิดตาประชาชน Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: ฟังจากปากจตุพร พรหมพันธ์ ยุคแห่งการปิดหูปิดตาประชาชน   ฟังจากปากจตุพร พรหมพันธ์ ยุคแห่งการปิดหูปิดตาประชาชน EmptyMon May 18, 2009 8:57 pm

ฟังจากปากจตุพร พรหมพันธ์

หนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ วันสุข
ประจำวัน ศุกร์ ที่ 15 พฤษภาคม 2009


ถือเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถคนหนึ่ง
และเป็นคนที่เกี่ยวเนื่องกับการเรียกร้องประชาธิปไตยมาตลอดตั้งแต่เป็นนัก
ศึกษา จนวันนี้ จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย
ก้าวเข้ามาสู่บทบาทของการเป็นผู้แทนราษฎร
ในฐานะที่เป็นแกนนำคนเสื้อแดงคนหนึ่งที่มีใจรักประชาธิปไตย
เขามองสถานการณ์การเมืองในขณะนี้อย่างไร

มองรัฐบาลนี้อย่างไร


ในฐานะที่เป็นทั้ง ส.ส. และแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดง
อยากบอกว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรัฐบาลที่รอวันตาย
เพราะการได้มาของรัฐบาลชุดนี้สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นรัฐบาลที่ไม่มี
ความชอบธรรม
ภาพต่างๆที่รัฐบาลกระทำในการปราบปรามประชาชนในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาบางส่วน
อาจมองว่ารัฐบาลชนะ แต่อันที่จริงทันทีที่รัฐบาลสั่งการให้ทหารปราบปราม
ใช้อาวุธสงคราม ใช้ปืนเอ็ม 16 กราดยิงประชาชน
แม้ว่ารัฐบาลจะใช้กลไกด้านข่าวสารปิดบังประชาชน
ใส่ร้ายกลุ่มคนเสื้อแดงทุกวิถีทาง
ข้อเท็จจริงคือคนที่สั่งฆ่าประชาชนเหมือนคนเหยียบตะปูที่เป็นสนิมรอวันเป็น
บาดทะยักตายเท่านั้นเอง

ถามว่าบาดทะยักจะระบาดเมื่อไร
คือวันที่ความจริงจะเปิดเผยออกมา เป็นวันที่ประชาชนได้เห็นความจริงครบถ้วน
ฉะนั้นหลายเรื่องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ไปสมคบคิดกันเป็นจอมลวงโลก เช่น
กับคำถามที่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่กระทรวงมหาดไทย
นายอภิสิทธิ์ยังตอบไม่ได้เลยว่าตัวเองอยู่ในรถวันที่ 12
เมษายนที่กระทรวงมหาดไทยหรือไม่ นายกฯยังไม่กล้าตอบ
ผมบอกว่าถ้าตอบก็ให้นึกถึงพระแก้วมรกต เพราะคุณโกหกประชาชน


ความจริงวันนี้ทุกคนรู้ว่าเรื่องรถแก๊สรัฐบาลเป็นผู้จัดการ
การยิงใส่ประชาชนที่นางเลิ้ง 2 ศพ ยิงใส่มัสยิดที่ถนนเพชรบุรี ซอย 5 ซอย 7
หรือแม้กระทั่งการเผารถเมล์นั้น
ชี้ให้เห็นชัดว่ามีคนของรัฐบาลจัดการทั้งสิ้น
แล้วใส่ร้ายคนเสื้อแดงให้มีผลปิดสถานีดีสเตชั่น
ใช้การสื่อสารด้านเดียวเพื่อใส่ร้ายคนเสื้อแดงโดยใช้กลไกของสื่อทุกชนิดใน
ช่วงที่ผ่านมา การปิดล้อมในเชิงทิศทางข้อเท็จจริงปิดได้ไม่นาน
เมื่อความจริงปรากฏนายกฯคงอยู่ไม่ได้


ถามว่าวันนี้ใครจะคิดร้ายกับนายกฯ แล้วทำไมรู้ตัวว่าตนเองถูกปองร้าย
งานที่สนามหลวงวันแรงงานก็ไม่กล้าไป
ขนาดวันฉัตรมงคลยังไม่กล้ามาที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
แล้วรัฐบาลชุดนี้จะไปการันตีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนได้อย่างไร
ขนาดตัวเองยังไม่กล้าไปร่วมงานต่างๆ ฉะนั้นคนก็สงสัยว่านายอภิสิทธิ์ทำอะไร
สร้างความคับแค้นให้กับใคร
คนเสื้อแดงไม่ได้แค้นเป็นการส่วนตัวกับนายอภิสิทธิ์
คนเสื้อแดงมีแนวทางต่อสู้ชัดเจน
วันนี้เราได้พิสูจน์ว่าภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นล้วนเป็นกลไกรัฐบาลที่ใส่
ร้ายมาทั้งสิ้น คนเสื้อแดงยังยึดแนวทางสงบ สันติ ปราศจากอาวุธเหมือนเดิม

มองบทบาทของสื่อมวลชนอย่างไร


ที่ผ่านมาการทำงานของสื่อมวลชนกับกลุ่มคนเสื้อแดงก็ดีกันมาตลอด
เป็นพี่เป็นน้องกัน
แต่ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง
การทำงานของสื่อมวลชนในช่วงนั้นถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจมากกับสื่อมวลชน
ของประเทศนี้
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นสามารถพูดได้เต็มปากว่านี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรก
เพราะเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 คนไทยได้เห็นเหตุการณ์ความรุนแรง
คือการจับนักศึกษามาเผาทั้งเป็นที่สนามหลวง
ก็ได้ดูจากภาพข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศ


มาถึงเหตุการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
ได้ดูภาพเหตุการณ์การปราบปรามประชาชนจากสื่อต่างประเทศเช่นกัน
เวลาผ่านมานับสิบปี เหตุการณ์ที่ล้อมฆ่าประชาชนตั้งแต่ตีสามตีสี่
คนไทยได้เห็นภาพเช่นนี้จากสื่อต่างประเทศเช่นเดียวกัน
ปัญหาเวลานี้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยมีมาตรฐานอะไรในการ
ประณามรัฐบาลในแต่ละยุคแต่ละสมัย
เห็นด้วยว่าการเป็นสื่อปัจจุบันมีสิทธิเลือกข้าง
แต่ต้องมีความจริงประกอบกับการเลือกข้างด้วย


วันนี้สมาคมมีคนของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เอเอสทีวี อยู่ด้วย
คุณยังไม่ปฏิเสธว่าเอเอสทีวี
ผู้จัดการก็เป็นสื่อหนึ่งที่ร่วมในการสร้างความรุนแรงหรือยึดทำเนียบรัฐบาล
และวันที่คนเหล่านี้กระทำการสมาคมก็ไม่ได้เป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องหยุดทำร้าย
ประเทศไทย ขณะเดียวกันเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม 2551
คุณบอกว่านี่คือความรุนแรง
แต่วันที่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ใช้อาวุธสงครามเข่นฆ่าประชาชนยังไม่เห็นออก
มาประณาม
ฉะนั้นการที่สื่อมวลชนไม่รายงานข้อเท็จจริงนี่คือการทำลายประเทศไทย
การ์ตูนในหนังสือพิมพ์ข่าวสดระบุชัดเจนที่กระเซ้าว่าหยุดทำร้ายประเทศไทยคือ
หยุดทำร้ายนายอภิสิทธิ์ใช่หรือไม่
ความจริงถ้ารณรงค์เรื่องหยุดทำร้ายประเทศไทย
แต่อีกวันว่าน่าจะไปชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
ข้อเท็จจริงคือผมเข้าใจคนทำสื่อ แต่หลายสื่อมีปัญหาเรื่องธุรกิจ
ทางเลือกทางธุรกิจกับการบิดเบือนความจริงเลยเป็นของคู่กัน
แต่วันนี้คนที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลไม่ได้หวังว่าจะให้สื่อมาอยู่ข้างเดียวกัน
เพียงแต่ให้มีพื้นที่สื่อเพื่อเสนอข่าว

เหตุการณ์ 12-14
เมษายนประชาชนจะไม่ได้รับอันตรายหากสื่อมวลชนถ่ายทอดทุกรายละเอียด
แต่สื่อไทยอุปโลกน์ว่าจะมีการทำร้ายสื่อ
พรรคพวกที่อยู่ในสื่อหลายคนมาสารภาพว่ามีการสั่งให้สื่อไทยถอนตัว
เมื่อสื่อไทยไม่อยู่ก็ขาดพยาน ถ้าสื่อไทยเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา
การฆ่าประชาชนอย่างบ้าคลั่งคงไม่เกิดขึ้น ฉะนั้นสมาคมสื่อควรทบทวนเช่นกัน
ไม่ต้องการให้มาเข้าข้างเรา เพียงแต่ขอให้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
เสมอภาค และยุติธรรม ที่วันนี้ไม่มี และเป็นการเลือกข้าง
ซึ่งปรกติสื่อจะอยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดใด
เพื่อเป็นตัวแทนประชาชนในการตรวจสอบรัฐ
แต่วันนี้สื่อกลายเป็นเครื่องมือของรัฐไปเข่นฆ่าประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับ
การกระทำของรัฐและบิดเบือนทั้งประเทศ


อยากเรียกร้องว่าอย่างน้อยจิตวิญญาณของอิศรา อมันตกุล, กุหลาบ สายประดิษฐ์
หรือศรีบูรพา และ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
ไม่ว่าใครก็ตามที่เคยกล่าวว่าจุดยืนการเป็นสื่อที่ผ่านมาปฏิบัติกันอย่างไร
แต่ขณะนี้เป็นที่น่าเจ็บใจว่าทุกครั้งคนไทยต้องเห็นภาพข่าวการเข่นฆ่า
ประชาชนทุกยุคทุกสมัยจากสื่อมวลชนต่างประเทศ
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://pookokardee.darkbb.com
sezzion
จอมพล
จอมพล
sezzion


Posts : 306
Reputation : 2
Join date : 14/05/2009

ฟังจากปากจตุพร พรหมพันธ์ ยุคแห่งการปิดหูปิดตาประชาชน Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: ฟังจากปากจตุพร พรหมพันธ์ ยุคแห่งการปิดหูปิดตาประชาชน   ฟังจากปากจตุพร พรหมพันธ์ ยุคแห่งการปิดหูปิดตาประชาชน EmptyMon May 18, 2009 8:57 pm

มองการทำงานขององค์กรอิสระอย่างไร


ต้องย้อนไปดูเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551
ตอนนั้นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติชี้ว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน
ขณะเดียวกันคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ชี้มูลความผิดว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น พล.อ.ชวลิต
ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และตำรวจบางนายมีความผิด
แต่นั่นคือแก๊สน้ำตา ศาลปกครองวินิจฉัยถ้าจะสลายการชุมนุมต้องยึดหลักสากล
คือต้องเริ่มจากเบาไปหาหนัก หรือเริ่มจากการเจรจา การใช้น้ำฉีด
จนกระทั่งการใช้แก๊สน้ำตา แต่ห้ามใช้อาวุธในการปราบปรามประชาชน


นี่คือสิ่งที่นายอภิสิทธิ์เรียกร้องตอนเป็นผู้นำฝ่ายค้านทั้งสิ้น
แต่วันที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีไม่มีการเจรจา ไม่มีแก๊สน้ำตา
มีแต่กระสุนปืนเอ็ม16 รวมถึงสั่งการให้นำอาวุธอย่างอื่นมาผสมด้วย
หลังจากประชาชนบาดเจ็บล้มตายแล้วจึงใช้รถดับเพลิงมาล้างเลือดประชาชน
เพราะฉะนั้นนี่คือการสลายการชุมนุมที่เลวร้ายที่สุดของประเทศ
เป็นที่น่าแปลกว่าองค์กรทั้งหลายเงียบกริบ
ทุกคนเอาการเลือกข้างไปปกปิดความจริง เอาผลประโยชน์ไปปกปิดความจริงหมด



ฉะนั้นเรายังโชคดีเมื่อเวลาผ่านพ้นไปหลายสื่อมีพื้นที่ให้กับข้อเท็จจริง
บ้าง เพียงแต่ยังไม่เท่าเทียม
ขณะนี้ถามว่าแต่ละองค์กรอิสระควรทบทวนอย่างไร
คนที่น่าทบทวนที่สุดคือองค์กรของสื่อสารมวลชน
คุณยืนดูรัฐบาลชุดนี้ทำกับประชาชนได้อย่างไร แล้วไม่สนใจติดตามว่ารถแก๊ส
ยิงมัสยิด ปล้นรถเมล์ เป็นการสร้างสถานการณ์ของรัฐบาล

คณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาช่วยอะไรได้บ้าง


ผมไม่ได้คาดหวังอะไร
เพียงแต่คณะกรรมการดังกล่าวจะเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาให้ปากคำ
แต่ประวัติศาสตร์ข้อเท็จจริงในการเข่นฆ่าประชาชนบิดเบือนไม่ได้
แล้วข้อเท็จจริงภายนอกจะหลั่งไหลมาเรื่อยๆ วันนี้ผมก็มองเห็นเหมือน
พ.ต.ท.ทักษิณว่าคนเสื้อแดงไม่ต้องทำอะไร
เพียงแต่เอาความจริงมาบอกประชาชนให้ครบรัฐบาลก็จบแล้ว
เหมือนคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณเร่งทำ
คดีนายสนธิคนอื่นเงียบหมด ปัญหาคือถ้าวันนี้สื่อมวลชนยืนอยู่ตรงกลางจริงๆ
กลุ่มอำมาตยาธิปไตย กลุ่มรัฐประหาร หรือแม้แต่กองทัพ
จะไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้เลย เพียงแต่วันนี้ประชาชนไม่มีกระบอกเสียง
สื่อมีอำนาจมาก ประชาชนต่อสู้และชี้ช่องว่าทำไมคดีอื่นๆจึงช้าหมด
แต่คดีคนเสื้อแดงทำความผิดน้อยกว่าพันธมิตรฯ ทั้งที่พันธมิตรฯยึดสนามบิน
ยึดทำเนียบรัฐบาล แต่คดีได้รับการประกันตัว และไปชุมนุมที่ที่กระทำความผิด


คดียึดสนามบิน พล.ต.ฉลอง สมใจ ผบก.ภ.1 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง บอกว่า 1-2 อาทิตย์
บัดนี้เลยมาเท่าไรถึงเท่าไร ก็ยังไม่เห็นทำ คือสมคบกันปล้นประเทศ
สองมาตรฐานเห็นได้ชัด วันนี้คนเสื้อแดงหนักแน่นมั่นคงกว่าเดิม
ตอนแรกอาจงงบ้าง รักใคร่มากกว่าเดิม
และรู้ว่าที่ผ่านมามีคนใส่ร้ายเขาอย่างไร

คดีของ พธม. ส่งผลกับรัฐบาลหรือไม่


อันนี้ไม่ต้องมีคำถามใดๆ
เพราะข้อเท็จจริงถ้าออกหมายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ไม่ว่าจะเป็นหมายใดๆก็ตามต้องถึงนายกษิต ภิรมย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และแกนนำคนอื่นๆด้วย
ปรากฏว่าเขาไม่ต้องการให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แต่คนเสื้อแดงจับทุกคน
ส่วนคนเสื้อเหลืองมีคดีแต่ไม่ยอมดำเนินคดี แต่เสื้อแดงเร่งแร้วเร่งอีก
และจะเพิ่มมาเรื่อยๆ

สังคมอยากถามอะไรกับรัฐบาลนี้



ทุกวันนี้ประชาชนทั้งประเทศไม่เฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงเท่านั้นที่ตั้งคำถามกับ
รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ว่ารัฐบาลชุดนี้ได้ขึ้นมาด้วยเงื่อนไขอะไร
และมีอะไรเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นต้องทำตามเงื่อนไข
เพียงแต่วันนี้ใครก็รู้ว่าพันธมิตรฯเหมือนถูกหักหลังเช่นเดียวกัน
ทั้งหมดชี้ว่านายอภิสิทธิ์เป็นคนใช้กฎหมายสองมาตรฐาน
มีเพียงนิสัยเป็นมาตรฐานเดียวชัดเจน

รัฐบาลปิดดีทีวีเพราะยั่วยุให้ประชาชนทำร้ายรัฐบาล


คนที่พูดแสดงว่าไม่เข้าท่า ทั้งบ้านทั้งเมืองเห็นว่าเป็นอย่างไร
รัฐบาลยิ่งพูดยิ่งทำร้ายตัวเอง ผมอยากบอกว่านายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อย่าว่าแต่สองมาตรฐานเลย
ยิ่งอธิบายยิ่งสะท้อนภาวะไร้มาตรฐาน
เพราะที่ผ่านมาไม่เฉพาะเอเอสทีวีกับดีทีวี
โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมอีกร้อยกว่าสถานีก็เป็นเช่นนั้น
ยิ่งบอกว่าเอเอสทีวีไม่ได้ปลุกระดม คุณเอาปากพูดยังไม่ได้เลย
แต่ว่าคุณกล้าพูดก็ไม่เป็นไร คนก็สมเพชคุณ

มองอนาคตรัฐบาลนายอภิสิทธิ์อย่างไร


ต้องตอบเลยว่านายอภิสิทธิ์ขณะนี้อยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถนำพาประเทศเดินหน้าไปได้
ทุกวันนี้รัฐบาลบริหารบ้านเมืองแบบพิกลพิการ
ที่สุดพรรคประชาธิปัตย์ก็อยู่ไม่ได้
เพียงแต่ที่ผ่านมาประเทศเจอกับภาวะเศรษฐกิจหนักหนา
เชื่อว่าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้วจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
ขณะนี้ประเทศไทยเป็นสังคมอกแตก เรียกได้ว่าตายทั้งเป็น รัฐบาลนอนรอวันตาย

กลุ่มเสื้อแดงจะมีการเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไร


เป็นเรื่องการพูดข้อเท็จจริง เหตุการณ์ที่ผ่านมา ตำรวจ ศาล
ห้ามปลุกระดม แต่สิทธิของคนไทยกระทำได้ ฉะนั้นควรอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง
ถึงที่สุดถ้ามีการรุกรานกันมากๆคนเสื้อแดงจะเดินมาให้ฆ่าอีก
เพราะเขาทนไม่ได้ เขารู้สึกว่าเป็นเจ้าของประเทศ
ผมอยากฝากไปถึงผู้มีอำนาจเหนือนายอภิสิทธิ์ว่า
การเข่นฆ่าประชาชนภายใต้กฎหมายบ้านเมืองขณะนี้อาจเอาผิดไม่ได้
แต่กฎแห่งกรรมมีจริง
เชื่อว่าขณะนี้คนที่กระทำการปราบปรามประชาชนคงนอนไม่หลับอีกนาน
ใครก็ตามหนีกฎแห่งกรรมไปไม่พ้นหรอก


ฉะนั้นที่ผ่านมาหลายคนที่เป็นสามัญชน ไพร่
ได้รับประโยชน์จากการเมืองที่เป็นแบบนี้ ท้ายที่สุดมาปราบปรามประชาชน
คุณสมควรได้รับกรรม วันนี้คนเสื้อแดงพูดเรื่องกฎหมายไม่ได้แล้ว
พูดได้แต่เรื่องกฎแห่งกรรมอย่างเดียว
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://pookokardee.darkbb.com
 
ฟังจากปากจตุพร พรหมพันธ์ ยุคแห่งการปิดหูปิดตาประชาชน
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
ผู้ก่อการดี :: หมวดข่าวสารการเมือง :: บอร์ดสนทนาข่าวสารการเมือง-
ไปที่: